มะเร็งเม็ดเลือดขาว  

            เม็ดเลือดขาวของเรานั้น มีหน้าที่ช่วยทำลายเชื้อโรค และสารแปลกปลอมต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย หรือกล่าวง่ายๆ ว่าเม็ดเลือดขาวจะช่วยสร้างความต้านทานให้กับร่างกายของเรา แต่ถ้าเม็ดเลือดขาวไม่สามารถที่จะทำหน้าที่ของตนเองได้ ก็จะเกิดผลกระทบต่อร่างกายของเราได้อย่างแน่นอน

            โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นโรคมะเร็งชนิดหนึ่งของระบบเลือด ที่เกิดจาการที่เซลล์เม็ดเลือดขาวในไขกระดูกเติบโตผิดปกติ ทำให้มีการสร้างเม็ดเลือดขาวออกมามากในกระแสเลือด ทำให้การทำงานของระบบเม็ดเลือดเสียไป อาจเป็นแบบเฉียบพลัน (Acute  leukemia) หรือเป็นแบบช้าๆ ค่อยๆ เป็น (Chronic  leukemia) โดยทั่วไป มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันจะมีอาการรุนแรงกว่าชนิดที่เกิดช้าๆ หรือเรื้อรัง

            ในปัจจุบันนี้ เราพบว่ามีผู้ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวมากขึ้น เฉพาะที่ศิริราชปีที่แล้วมีผู้ป่วยใหม่ 200 รายในรอบ 1 ปี และมะเร็งเม็ดเลือดขาวจัดได้ว่าพบได้บ่อยใน 10 อันดับแรกของมะเร็ง

            โรคนี้มักจะมาเป็นภายหลังจากที่เราคลอดออกมาแล้ว แต่เราสามารถจะพบได้ในบางรายที่เป็นตั้งแต่คลอดออกมา แต่โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นภายหลัง

สาเหตุของมะเร็งเม็ดเลือดขาว
           
ในปัจจุบัน สาเหตุที่แท้จริงเรายังไม่ทราบ แต่มีปัจจัยส่งเสริมบางอย่าง เช่น โรคทางพันธุ์กรรมบางโรค เช่น ดาวซินโดรม (Down's syndrome) การแพร่รังสี เพราะเจอคนไข้มากขึ้นหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 มีระเบิดปรมาณู นอกจากนั้น ยังมีสารเบนซิน พวกนี้ก็จะมีกลุ่มปัจจัยเสริมทำให้พบได้ง่ายขึ้น และมีการติดเชื้อบางอย่างด้วย เช่น เชื้อไวรัสบางอย่าง

            เราพบว่าโรคพันธุ์กรรมบางอย่าง การมีอุบัติการณ์ของมะเร็งเม็ดเลือดขาวสูงกว่าคนธรรมดาทั่วไป นั่นคือ สาเหตุส่งเสริมที่ทำให้เกิดเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ไม่ว่าในเรื่องของรังสี สารพิษต่างๆ

ลักษณะอาการแบ่งได้ 4 อย่าง ดังนี้ 
        
    1. อาการแรกที่เป็น คือ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ซีด อ่อนเพลียง่าย อันนี้เป็นลักษณะเดิมทั่วไปทั้งหลาย
            2. มีเลือดออกง่าย เพราะมะเร็งเม็ดเลือดขาวจะมีเกร็ดเลือดต่ำ จึงทำให้เลือดออกง่าย เช่น ออกตามไรฟัน มีจ้ำเขียวขึ้นบนตามตัว หรือมีประจำเดือนมากผิดปกติ 
            3. มีเม็ดเลือดขาวปริมาณมาก แต่ทำหน้าที่ไม่ได้ตามเท่าที่ควรจะเป็น ซึ่งเม็ดเลือดขาวมีหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรค แต่เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ต่อสู้เชื้อโรคไม่ได้ ทำให้มีการติดเชื้อง่ายมีไข้ มีการติดเชื้อในตำแหน่งต่างๆ
            4. เม็ดเลือดขาวไปบีบบังอวัยวะต่างๆ หรือสะสมอยู่ก็ทำให้มีก้อนขึ้นที่ขาหนีบ ต่อมน้ำเหลือง ขา คอ หรือมีตับ ม้ามโต

            ถ้าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวอย่างเฉียบพลัน แล้วไม่ได้รักษา โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะเสียชีวิตใน 3-4 เดือน ในการเสียชีวิตนั้น มีการติดเชื้อง่าย และการติดเชื้อนั้นมีการลุกลามไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย อีกกรณีหนึ่งก็คือ มีเลือดออก เช่น มีเลือดออกจากสมองอาจทำให้ผู้ป่วยถึงแก่กรรมได้ย่างรวดเร็ว

            ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง พวกนี้อาการจะค่อยดำเนินค่อยเป็นค่อยไป อาจจะเริ่มจาก 6-8 เดือน หลังจากนั้นอวัยวะต่างๆ ก็จะเริ่มเสื่อมลง เกิดปัญหารุนแรงตามมาอีก เพราะฉะนั้นเราควรดูแลรักษากัน เพราะโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเป็นโรคหนึ่งที่ร้ายแรง และอันตราย

การตรวจวินิจฉัย
            

วิธีการรักษา
   
         1. ซักถามจากประวัติการเจ็บป่วย
            2. การตรวจร่างกาย
            3. การตรวจทางพยาธิวิทยา

            ในการเจาะเลือดตรวจว่ามีความผิดปกติหรือไม่ ถ้าพบเซลล์เม็ดเลือดตัวอ่อนของเม็ดเลือดขาว ก็จะทำการยืนยันโดยการเจาะไขกระดูก เพื่อดูให้ชัดเจนอีกครั้งว่ามีการขยายตัวในไขกระดูกจริง

การรักษา 
           
ในปัจจุบัน มีความก้าวหน้าของยาเคมีบำบัด และการปลูกถ่ายไขกระดูกมีความก้าวหน้า เพราะฉะนั้นจัดได้ว่ามะเร็งเม็ดเลือดขาวมีวิธีการรักษาให้หายขาดได้ โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ขวบ อัตราการรักษาให้หายขาดค่อนข้างสูง ขึ้นอยู่กับการมาพบแพทย์รักษาอย่างรวดเร็ว และมาพบตั้งแต่เริ่มต้น มีบางกลุ่มที่ไม่ทราบ และปล่อยปละละเลยให้อาการเป็นมากขึ้น

วิธีดูแลหรือปฏิบัติตนของผู้ป่วย
           
เรื่องแรก คือ การดูแลสุขอนามัยส่วนตัว เพราะผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีการติดเชื้อได้ง่าย และการดูแลรักษาความสะอาดส่วนต่างๆ ของร่างกายเป็นเรื่องสำคัญ ที่เราพบบ่อยคือสุขภาพปาก ฟัน อันนี้เป็นช่องทางทำให้ติดเชื้อกันง่าย ควรใช้แปรงขนอ่อนนุ่มเป็นพิเศษ ซึ่งพวกนี้จะราคาแพงแต่จะทำให้มีแผลในปากน้อย และจะช่วยลดการติดเชื้อเป็นอย่างดี การรับประทานอาหาร ผัก ผลไม้มากๆ จะช่วยในการขับถ่ายอุจจาระไปได้ด้วยดี ไม่ท้องผูกอาจจะมีแผลที่ทวารเป็นที่หนึ่งของการติดเชื้อได้ง่าย และการดื่มน้ำมากๆ ก็จะช่วยได้มาก เพราะพวกนี้จะมีการแตกสลายในเม็ดเลือดเป็นจำนวนมาก และมีการสะสมสารบางอย่างในร่างกายทำให้เกิดการอุดตัน เพราะฉะนั้นทานน้ำมากๆ
ก็จะช่วยขับถ่ายได้เป้นอย่างดี อีกอย่างคือ การซื้อยาแก้ปวดแก้ไข้ทานเอง อันนี้จะเป็นอันตรายเสริมในกรณีที่ได้ยาผิดประเภทไป คนไข้กลุ่มนี้ต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของแพทย์ 

การดูแลให้เหมาะสมสำหรับผู้ป่วย
           
1. พักผ่อนให้เพียงพอ
            2. ดื่มน้ำมากๆ
            3. รักษาความสะอาดของร่างกาย
            4. รับประทานอาหารทีมีประโยชน์ คุณค่าต่อร่างกาย
            5. รักษาสุขภาพร่างกายอย่าให้มีโรคแทรกซ้อนมาภายหลัง

แนวทางการป้องกัน
           
เนื่องจากเรายังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริง แต่เราทราบว่ามีปัจจัยส่งเสริมว่า คือ พวกสารเคมีบางอย่าง หรือพวกอาหารที่มีสารปรุงแต่งมากเกินไป ช่วงนี้คนส่วนมากนิยมอาหารพวก Fast Food หรืออาหารทีมีการดัดแปลง มีสารเคมี และอันนี้ก็มีการศึกษา และพบว่ามีอุบัติการณ์ของมะเร็งไม่ใช้เฉพาะของมะเร็งเม็ดเลือดขาวอย่างเดียว มะเร็งชนิดอื่นๆ ก็มีอุบัติการณ์สูงขึ้น ถ้าเราลดของพวกนี้ได้ก็จะลดปัจจัยการส่งเสริมมะเร็ง

ข้อแนะนำ
           
ในปัจจุบัน สมาคมโรคมะเร็งแห่งอเมริกาได้แนะนำว่า คนทั่วไปควรทานอาหารที่มีผัก ผลไม้ อย่างน้อยวันละ 5 สุ่ม ซึ่งจะช่วยลดอุบัติการณ์การเกิดมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งชนิดใดก็ตาม รวมทั้งควร
หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับกัมมันตภาพรังสี และสารเคมีที่ก่อให้เกิดมะเร็ง

 

    

 

/ มะเร็งในระบบประสาท / มะเร็งของกระดูก / มะเร็งช่องปาก / มะเร็งกล่องเสียง

/ มะเร็งต่อมธัยรอยด์ / มะเร็งต่อมน้ำเหลือง / มะเร็งตับ / มะเร็งตับอ่อน / มะเร็งปากมดลูก /

/ มะเร็งมดลูก / มะเร็งรังไข่ / มะเร็งเต้านม / มะเร็งปอด / มะเร็งผิวหนัง /

/ มะเร็งต่อมลูกหมาก / มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก / มะเร็งเม็ดเลือดขาว /

/ มะเร็งถุงน้ำดีและท่อน้ำดี /