Picture

   มะเร็งมดลูก  

            มะเร็งมดลูกพบได้น้อยกว่ามะเร็งปากมดลูก ในสตรีที่อายุ 40-60 ปี มักพบภายหลังหมดประจำเดือนแล้ว

สาเหตุ 
           
ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มีผู้เสนอว่า อาจเกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ส่วนสาเหตุ หรือปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดมะเร็งมดลูก ได้แก่ 
            1. สตรีที่ไม่มีบุตร หรือมีบุตรเมื่ออายุมาก
            2. สตรีที่เคยได้รับการรักษาด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นเวลานาน หรือเคยได้รับการฉายรังสีที่บริเวณเชิงกราน
            3. กรรมพันธุ์ 
            4. มักพบร่วมกันโรคอ้วน เบาหวาน และความดันโลหิตสูง

อาการ
            1. มีเลือดออกทางช่องคลอดในสตรีวัยหมดประจำเดือนแล้ว หรือมีเลือดออกผิดปกติในสตรีที่ยังคงมีประจำเดือนอยู่ 
            2. คลำพบก้อนที่บริเวณท้องน้อย
            3. ปวดท้องน้อย ปวดหลัง เนื่องจากมดลูกโตไปกดแผงประสาท

การวินิจฉัย
           
1. ศึกษาประวัติของผู้ป่วย
            2. โดยการตรวจภายใน อาจเห็นมีเลือดออกจากโพรงมดลูก คลำได้มดลูกโต
            3. การขูดมดลูก เพื่อนำชิ้นเนื้อมาตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ 

การรักษา
           
1. การผ่าตัดเอามดลูก พร้อมทั้งรังไข่ และท่อนำไข่ทั้งสองข้างออกทางหน้าท้อง
            2. การฉายรังสี และใส่เรเดียมในรายที่ตรวจพบมดลูกโตกว่าครรภ์ 8 สัปดาห์ แล้วตามด้วยการผ่าตัด
   
         3. เคมีบำบัด ใช้ในรายที่มะเร็งกระจายไกลออกไปจากช่องเชิงกรานแล้ว

การป้องกัน
           
เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของมะเร็งมดลูก ดังนั้นการป้องกันจึงอาจทำได้โดย
   
         1. ระวังเรื่องโรคอ้วน เบาหวาน และความดันโลหิตสูง
            2. สตรีวัยหมดประจำเดือน ควรได้รับการตรวจร่างกาย และตรวจภายในอย่างน้อยปีละครั้ง
            3.ใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนรักษาอาการหมดประจำเดือนอย่างระมัดระวัง
            4. รีบปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการเลือดออกผิดปกติ

 

    

 

/ มะเร็งในระบบประสาท / มะเร็งของกระดูก / มะเร็งช่องปาก / มะเร็งกล่องเสียง

/ มะเร็งต่อมธัยรอยด์ / มะเร็งต่อมน้ำเหลือง / มะเร็งตับ / มะเร็งตับอ่อน / มะเร็งปากมดลูก /

/ มะเร็งมดลูก / มะเร็งรังไข่ / มะเร็งเต้านม / มะเร็งปอด / มะเร็งผิวหนัง /

/ มะเร็งต่อมลูกหมาก / มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก / มะเร็งเม็ดเลือดขาว /

/ มะเร็งถุงน้ำดีและท่อน้ำดี /